“วัชรพล สิงห์มาวิน” มวยเข่าเชิงดี วัย 21 ปี จากสงขลา เตรียมกลับมาไล่ล่าชัยชนะไฟต์ที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยการประชันฝีมือกับจอมบู๊ไฟแรงสูงจากอุซเบกิสถาน “อัสลามจอน ออร์ติคอฟ” นักสู้วัย 20 ปี เจ้าของผลงานสุดร้อนแรง 3 ไฟต์พ่ายไม่เป็น โดยจะปะทะกันในกติกามวยไทย แคตช์เวต 129 ป. ในฐานะคู่เอกนำรายการของศึก ONE ลุมพินี 54 ที่จะถ่ายทอดสดจากเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 3 มี.ค.นี้
สำหรับ “วัชรพล” เริ่มต้นฝึกมวยไทย ตั้งแต่อายุ 12 ปี จากการสนับสนุนของครอบครัว ซึ่งหลังจากฝึกมวยได้ไม่นาน เจ้าตัวก็เริ่มออกเดินสายต่อยในเวทีภาคใต้ทันที ก่อนที่ 3 ปี ต่อมา จะได้รับโอกาสเข้ามาโชว์ฝีมือในเมืองกรุงเป็นครั้งแรก และด้วยรูปร่างที่สูงยาวเข่าดี ประกอบกับมีลีลาการชกที่สวยงาม จึงทำให้ “วัชรพล” ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ใจดี ให้เข้ามาเป็นนักมวยภายใต้การดูแลของค่ายมวยสิงห์มาวิน เมื่ออายุได้ 17 ปี
การเข้ามาเป็นนักมวยในเมืองกรุง ทำให้ฝีไม้ลายมือของ “วัชรพล” ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมา จนกลายเป็นนักมวยร่างโย่งที่มีอาวุธครบเครื่อง และสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จนนำมาซึ่งการได้รับโอกาสให้เข้ามาเปิดตัวบนเวทีระดับโลก ในศึก ONE ลุมพินี 25 ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนคลับทุกคนต้องผิดหวัง กดน็อก “ทรงชนะ ต.บรูซลี” ตั้งแต่ยกแรก ตามด้วยการไล่ต้อนเอาชนะ “อภิวัฒน์ ส.สมนึก” ในอีก 2 เดือนต่อมา
“รู้สึกดีใจมากครับที่ได้รับโอกาสให้เข้ามาชกใน ONE ลุมพินี ส่วนภาพรวมผลงานใน 2 ไฟต์ที่ผ่านมาถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่งครับ โดยเฉพาะในไฟต์ที่สอง ซึ่งแม้จะไม่ชนะน็อก แต่รู้สึกว่าปรับตัวเข้ากับนวมเล็กได้ดีกว่าไฟต์แรกพอสมควร ส่วนจุดบกพร่องที่ยังเห็นชัด ๆ เลยคือเรื่องของการออกอาวุธที่ถึงผมจะออกได้หนักก็จริง แต่ยังช้าเกินไป ทำให้คู่ต่อสู้มองออก ซึ่งผมก็ได้กลับไปแก้ไขปรับปรุง ในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วครับ”
การกลับมาชกใน ONE ลุมพินี เป็นครั้งที่ 3 ในคราวนี้ “วัชรพล” ในวัยเพียง 21 ปี จะต้องก้าวเท้าขึ้นสู้สังเวียนในฐานะคู่เอกนำรายการเป็นครั้งแรก พบกับนักชกรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง “อัสลามจอน” ที่จะยืนเป็นคู่เอกครั้งแรกเช่นกัน ทำเอาเจ้าตัวถึงกับอดตื่นเต้นไม่ได้ สำหรับโอกาสสุดพิเศษที่ได้รับในครั้งนี้
“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากครับ อยากจะขอบคุณทางรายการมาก ๆ ที่ไว้ใจ และกล้าให้โอกาสดาวรุ่งอย่างผม กับ อัสลามจอน ขึ้นเป็นคู่เอกครั้งแรกด้วยกันทั้งคู่ ผมสัญญาว่าจะพยายามทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดเพื่อไม่ให้ทางรายการ และทุกคนต้องผิดหวัง”
การโคจรมาพบกับด่านหิน อย่าง “อัสลามจอน” ที่ทำผลงานดับซ่านักชกชาวไทยมาแล้ว 3 ไฟต์ติดต่อกัน ทำให้ “วัชรพล” และทีมงานสิงห์มาวินต้องรีบทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อเตรียมแผนการมาหักเหลี่ยมเฉือนคม หวังหยุดความร้อนแรงของนักชกจากอุซเบกิสถานให้ได้ในไฟต์นี้
“อัสลามจอน เป็นมวยฝีมือที่มีเสตปขาเร็วและออกอาวุธทั้งหมัด ทั้งแข้งได้ไวมาก ทำให้จับทางได้ยาก ซึ่งผมและทีมงานก็ทำการบ้านเรื่องนี้อย่างหนักและเตรียมลูกมาแก้ทางมาเรียบร้อยครับ ส่วนจุดอ่อนของเขาคือโดนท้อง แล้วจะมีอาการให้เห็นทันที ซึ่งแน่นอนครับว่าถ้ามีจังหวะ ผมจะคอยเล่นงานท้องเขาแน่นอน”
“การที่ อัสลามจอน เขาเป็นมวยเดินโดยธรรมชาติ ไฟต์นี้ผมและทีมงานจึงวางแผนที่จะมาชิงจังหวะออกอาวุธให้ได้ก่อน เพื่อทำลายสเตปการเข้าทำของเขา แล้วก็สลับกลับมารอเล่นจังหวะสอง เน้นออกแม่น ๆ หนัก ๆ แต่ถ้าหากสถานการณ์จำเป็นที่จะต้องแลกกับเขา ผมก็พร้อมปักหลักยืนซดอาวุธกับเขาเช่นกันครับ”
“วัชรพล” ยอมรับว่าการถูกประกบให้มาพบกับ “อัสลามจอน” นักมวยต่างชาติที่เรียกได้ว่าฮอตที่สุดคนหนึ่งในชั่วโมงนี้ คือโอกาสครั้งสำคัญที่จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะหากตนสามารถพิชิตจอมเดือดจากอุซเบกิสถานรายนี้ลงได้ ก็จะสามารถประทับตราแจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่แห่งรายการ ONE ลุมพินี ได้ทันที
“ไฟต์นี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ เลยครับ เพราะ อัสลามจอน เขาเป็นนักมวยที่มีกระแสแรงพอสมควรว่าอาจจะได้รับสัญญา ONE หากเอาชนะผมได้ในไฟต์นี้ ผมจะไม่มีทางปล่อยให้เขาผ่านผมไปง่าย ๆ แน่นอนผมจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อเอาชนะเขาให้ได้ และแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมเองก็มีดีไม่แพ้เขาเหมือนกันครับ”
