“สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” มวยบู๊หมัดโหด วัย 27 ปี จากมหาสารคาม เดินหน้าตามล่าโบนัส 350,000 บาท เป็นไฟต์ที่ 6 ติดต่อกัน ตอนนี้เครื่องกำลังร้อนพร้อมลุยใส่ “ป้อมเพชร พีเค.แสนชัย” มวยซ้ายใจถึง วัย 25 ปี จากบุรีรัมย์ ที่หวังกลับมาเก็บแต้มชัยต่อเนื่องให้ได้ โดยทั้งคู่พร้อมซัดกันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 132 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 54 วันศุกร์ที่ 8 มี.ค.นี้
สำหรับ “สุริยันต์เล็ก” ที่ฝากผลงาน ชนะ 4 แพ้ 1 ในศึก ONE ลุมพินี ถือเป็น 1 ใน 2 นักชก ร่วมกับ “คนไม่ยอมคน” เสกสรร อ.ขวัญเมือง ที่เก็บโบนัสจากรายการนี้ได้มากที่สุดถึง 5 ครั้ง ขณะที่ “ป้อมเพชร” ร้ายกาจไม่แพ้กัน เมื่อเก็บแต้มชัยได้ 3 จาก 4 ไฟต์ พร้อมคว้าโบนัสได้รวม 7 แสนบาท โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต่างเคยฝึกซ้อมอยู่ด้วยกันที่ค่ายมวยพีเค.แสนชัย ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มาแล้วด้วย
จากผลงานดังกล่าวน่าจะพอการันตีได้ว่าการประกบคู่เจอกันของคู่นี้จะต้องออกมาบู๊แหลกแลกอาวุธเดือดกันบนเวทีแบบไม่มีใครยอมกันง่าย ๆ และมีโอกาสสูงที่ไฟต์นี้โบนัสจะแตกอีกครั้ง โดยต้องมาลุ้นกันว่าฝ่ายใดจะทำได้สำเร็จ
ด้าน “สุริยันต์เล็ก” ยอมรับว่าการได้รับโอกาสเข้ามาชกในศึก ONE ลุมพินี คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอาชีพนักมวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตนสามารถคว้าเงินโบนัสได้มากครั้งที่สุดของรายการในขณะนี้ ซึ่งช่วยให้เขาและครอบครัวกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้งหลังต้องเผชิญมรสุมชีวิตมามากมาย
“การได้รับโอกาสมาชกในศึก ONE ลุมพินี เปลี่ยนชีวิตผมไปเยอะมาก ผมภูมิใจมากที่ตัวเองขึ้นชก 5 ครั้ง และเก็บโบนัสได้ทั้งหมด เงินที่ได้มาส่วนใหญ่ผมเอาไปใช้หนี้ให้กับพ่อแม่ รวมถึงช่วยเหลือครอบครัวตัวเองให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กลับมาปีนี้ ผมตั้งเป้าอยากทำผลงานให้ออกมาดีกว่าเดิม อยากแสดงฝีมือที่ดีที่สุดให้ทุกคนได้เห็น ไฟต์นี้ถ้าผมเก็บชัยชนะสวย ๆ ได้อีกครั้ง คิดว่าตัวเองน่าจะเข้าใกล้โอกาสได้สัญญา ONE มากขึ้นไปอีกครับ”
ไฟต์นี้ “สุริยันต์เล็ก” ต้องพิสูจน์ฝีมือกับ “ป้อมเพชร” ที่เริ่มปรับตัวได้ดีและกำลังมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน แต่เจ้าของฉายา “ไอ้หมัดเขวี้ยงควาย” ยังเชื่อมั่นในความหนักหน่วงของอาวุธที่ตัวเองมี พร้อมปิดจ็อบเร็วและลุ้นเป็นคนแรกของรายการที่ทำสถิติคว้าโบนัส 6 ไฟต์ต่อเนื่อง ซึ่งมากกว่านักกีฬาคนอื่น ๆ ที่เคยทำได้
“ช่วงหลังผมเห็น ป้อมเพชร พัฒนาฝีมือขึ้นมาเยอะมาก มีอาวุธอันตรายแทบทุกลูก แต่เขามักเผลอมีจังหวะมวยหลวมอยู่บ้าง ผมมองว่าไฟต์นี้ตัวเองน่าจะมีโอกาสปิดเกมเร็วและทำผลงานออกมาสนุกมากที่สุด เพื่อลุ้นคว้าโบนัสให้ได้อีกครั้ง หลายคนมองว่าถ้าผมชกให้ถูกใจติดตาคนดู ก็อาจมีโอกาสได้เข้าไปโชว์ผลงานในศึก วัน แชมเปียนชิพ ไฟต์นี้ผมจึงตั้งใจมากเป็นพิเศษครับ”
ด้าน “ป้อมเพชร” ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 44 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา โชว์ทีเด็ดอัดทีเคโอยก 3 “ฤทธิเดช ส.สมหมาย” ได้ตามเป้า พร้อมรับเงินโบนัสกลับบ้าน ส่งผลให้เจ้าตัวมั่นใจเต็มขีด พร้อมกลับมาสานต่อฟอร์มแรงให้แฟนมวยทุกคนได้ประทับใจ
“ไฟต์ล่าสุดผมเอาชนะ ฤทธิเดช มาได้ ถือว่าเป็นไปตามแผนที่เตรียมเอาไว้ ผมรู้ว่าคู่ชกโดนอาวุธเยอะ ๆ ไม่ได้ ทำให้ผมตัดสินใจเดินลุยบุกอัดอย่างเดียว สุดท้ายก็ปิดเกมเร็วได้ในที่สุด มาถึงตอนนี้ ผมพอใจในการปรับตัวเรื่องของการชก 3 ยก และใช้นวมเล็ก ทั้งในส่วนของการออกอาวุธ รวมถึงป้องกันตัว กลับมารอบนี้ ผมเตรียมตัวมาดีเต็มที่เหมือนเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก อยากชกให้ประทับใจคนดูมากที่สุดครับ”
การถูกจับมาเจอกับ “สุริยันต์เล็ก” ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบหินที่ “ป้อมเพชร” ต้องแสดงให้เห็นว่าตัวเองแกร่งพอที่จะก้าวขึ้นไปแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นกว่านี้ โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่กังวลกับสถิติสุดโหดของคู่ชกมากนัก เพราะตนได้เตรียมแผนมารับมือไว้แล้วเรียบร้อย
“สุริยันต์เล็ก เป็นนักมวยที่มีลูกบู๊ ลูกชน และมีหมัดที่รุนแรงมาก ทำให้เขาเก็บโบนัสได้ถึง 5 ไฟต์ติด แต่ผมไม่ได้กังวลในเรื่องนี้มาก พยายามเน้นซ้อมลูกป้องกันให้ดีมากที่สุดมาไว้แล้ว นอกจากนั้นทางทีมงานโค้ชยังได้ติวหมัดแย็บและเตะขาหน้าเพิ่มมาให้ เอาไว้คอยสกัดการโจมตีของคู่ชกด้วย ไฟต์นี้มีความสำคัญต่อผมมาก เพราะถือเป็นไฟต์แรกของตัวเองในปีนี้ การต้องเจอกับคู่ชกที่เก่งมาก ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือของตัวเองได้เป็นอย่างดี ผมจะไม่ยอมแพ้และปล่อยให้เขาคว้าโบนัสได้ง่าย ๆ แน่นอนครับ”