“เสกสรร อ.ขวัญเมือง” จอมบู๊ใจเด็ด วัย 35 ปี จากนครราชสีมา พร้อมประเดิมผลงานแรกปี 2567 เปิดหน้าชน “ยูทาโร อาซาฮี” น้องใหม่ไฟแรง วัย 24 ปี จากญี่ปุ่น โดยจะดวลเดือดกันในกติกามวยไทยพิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 142 ป. ในศึกใหญ่แห่งปี ONE ลุมพินี 58: ซุปเปอร์บอน vs มารัต ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
ย้อนไปในปี 2566 “เสกสรร” จอมบู๊จากแดนใต้ ถือเป็นดาวเด่นของ ONE อย่างแท้จริง เมื่อได้รับโอกาสขึ้นสังเวียนบู๊มอบความมันสู่สายตาแฟนกีฬาการต่อสู้ทั่วโลกมากรวมถึง 8 ไฟต์ ทั้งในศึก ONE ลุมพินี และใน วัน แชมเปียนชิพ ที่สำคัญคือสามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด พร้อมรับเงินรางวัลโบนัสไป 5 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 3.5 ล้านบาท พลิกชีวิตของตัวเองและครอบครัวให้ดีขึ้นมาทันตา
โดยผลงานล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าของฉายา “คนไม่ยอมคน” ยังโชว์ฟอร์มแกร่งไล่ทุบชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ “ริเวอร์ แดซ” สายโหดจากออสเตรเลีย มาได้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมทั้งในด้านร่างกายและจิตใจที่ยังกระหายในชัยชนะเช่นเดิม โดยตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะเปิดศักราชใหม่ด้วยชัยชนะอันสวยงาม ให้แฟนกีฬาการต่อสู้ทุกคนได้ชมให้หายคิดถึง
ทั้งนี้ “บังสรร” ยอมรับถึงการได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันใน ONE ว่า ทำให้ชีวิตของตัวเองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง ถึงตอนนี้ทุกอย่างเป็นเหมือนกำไรชีวิตที่ตนไม่เคยคาดคิดจะได้รับมาก่อน พร้อมตอบแทนด้วยการโชว์ผลงานที่ดีที่สุดออกมาให้ทุกคนได้ชมกันเหมือนเดิม
“ตั้งแต่ได้เข้าร่วมงานกับ ONE ชีวิตของผมเปลี่ยนไปเยอะมาก ทั้งการใช้ชีวิต การใช้จ่าย ความเป็นอยู่ของครอบครัวผมดีขึ้น ตอนนี้ผมคิดว่าการได้มาชกใน ONE ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว จากคนที่คิดจะเลิกมวยได้กลับมาชกมวยพลิกชีวิตหน้ามือเป็นหลังมือ แค่นี้ผมก็รู้สึกพอใจแล้ว ผมอยากทำหน้าที่บนเวทีของตัวเองให้ดีที่สุดไปเรื่อยๆ ชกสนุกให้ชาวไทยและทั่วโลกได้ดู ส่วนผลแพ้ชนะก็เป็นอีกเรื่องครับ”
สำหรับไฟต์แรกของปีนี้ “เสกสรร” จะต้องรับมือกับ “ยูทาโร” ดาวเด่นจากแดนปลาดิบ ที่ขึ้นชื่อเรื่องสไตล์การชกบู๊ดุดัน ไม่แพ้ใครเลยใน 4 ไฟต์หลังสุด แต่นักชกขวัญใจคนไทยยังมั่นใจว่าประสบการณ์มวยไทยของตัวเองยังเหนือกว่าคู่ชกอยู่มาก น่าจะปิดเกมคว้าชัยอีกครั้งได้สำเร็จ
“ผมศึกษา ยูทาโร เขาเป็นมวยที่ออกหมัดชุดได้ดีและมีความเร็วจัดจ้าน แต่ความเป็นมวยไทยของเขายังไม่เท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกคลุกวงในยังถือเป็นจุดอ่อนสำหรับเขามาก เขาเป็นนักสู้ที่ย้ายสายจากคิกบ็อกซิ่งมาชกมวยไทย ทำให้รูปแบบมวยไทยของเขาเป็นรองผมแน่นอน จุดนี้น่าจะทำให้ผมได้เปรียบมาก ผมสามารถใช้อาวุธแม่ไม้มวยไทยได้ครบเครื่อง มีแจกอาวุธทั้งตีศอก แทงเข่า ให้ดูแน่นอนครับ”
ด้วยความห่างของวัยที่มากกว่าถึง 11 ปี “เสกสรร” คาดหวังว่าจะต้องทำให้เกมเจอกับ “ยูทาโร” จบลงด้วยอันเวลาอันรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะคู่ชกมีทั้งความสดและความเร็วเป็นทีเด็ด ถ้าตนเองปล่อยให้เกมการแข่งขันยืดเยื้ออาจตกเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียเปรียบเองได้
“ผมคิดว่ารูปเกมไฟต์นี้เขาต้องบวกอาวุธแลกกับผมแน่นอน เพราะเขาคงจะไม่ยอมง่าย ๆ เหมือนกัน ถ้าผมมีโอกาสปิดเกมเร็วได้ก็จะรีบน็อกทันที เพราะมวยญี่ปุ่นประมาทไม่ได้ มีทั้งหมัดเร็วและออกเป็นชุด ผมต้องเอาชนะเขาให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะผมอายุมากแล้ว ร่างกายไม่ได้สดเหมือนเดิม จะให้มาชกในเกมยาวคงเสียเปรียบครับ”