“ศิวกร พีเค.แสนชัย” นักสู้วัย 24 ปี จากสตูล ประกาศกร้าวพร้อมจะประเคนทุกอาวุธหยุดฟอร์มแกร่งของ “ชาคริยอร์ ยูราเยฟ” นักชกวัย 23 ปี จากอุซเบกิสถาน โดยคู่นี้มีนัดวัดฝีมือกันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 140 ป. ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 59 วันศุกร์ที่ 19 เม.ย. นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
“ศิวกร” จากค่ายพีเค.แสนชัย พกความมั่นใจหลังเปิดตัวใน ONE ลุมพินี อย่างน่าประทับใจด้วยการเอาชนะคะแนน ธีรเดช ช.ห้าพยัคฆ์ ในฐานะคู่รองของศึก ONE ลุมพินี 15 เมื่อเดือน พ.ค.66 ซึ่งไฟต์นี้นอกจากจะการล่าชัยไฟต์ที่สองติดต่อกันแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้พิสูจน์ฝีมือกับคู่ชกต่างชาติเป็นครั้งแรกในชีวิต อีกด้วย
ธีรเดช vs ศิวกร (5 พ.ค.66)
“ไฟต์ก่อนได้ชกรองคู่เอก วันนั้นก็ดีใจมากครับ ผมเหมือนคนไม่เคยชกมวยเลยเพราะตื่นเต้นและตื้นตันไปหมดที่คนเห็นคนเชียร์เยอะ และยังเอาชนะไปได้ด้วย ไฟต์นี้ได้ชกเป็นคู่เอกภาคอินเตอร์ ทำให้ผมมีกำลังใจและขยันมากขึ้น เพราะผมอยากทำให้ดีที่สุดในครั้งนี้ครับ”
การกลับมาชก ONE ลุมพินี เป็นไฟต์ที่ 2 “ศิวกร” ถูกจัดให้เจอกับ “ชาคริยอร์” ที่เพิ่งเอาชนะน็อก “หนุ่มพังงา อีเกิ้ลมวยไทย” มาหมาด ๆ ในศึก ONE ลุมพินี 57 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตการชกมวยที่เขาต้องประมือกับคู่ชกต่างชาติ ทำให้เขาต้องทำการบ้านและศึกษาคู่ชกตัวอันตรายอย่างละเอียด
“ไฟต์นี้เป็นการชกกับนักมวยต่างชาติครั้งแรกในชีวิตเลยครับ ชาคริยอร์ เป็นมวยซ้ายที่ออกอาวุธรวดเร็ว มีหมัดที่ดีมาก ดักศอก ดักแข้ง ได้ครบเครื่องจริง ๆ ครับ จุดแข็งหลัก ๆ ของเขาคือหมัด กับ ศอก ที่ผมต้องระวัง ส่วนจุดอ่อน ผมเห็นว่าเขาไม่สู้เข่าเท่าไหร่ สังเกตได้จากช่วงปลายเกมเขาจะแผ่วลงครับ”
ชาคริยอร์ ยูราเยฟ
“ผมดูเทปไฟต์ที่เขาแพ้ สมิงดำ ลูกสวน , เด็ดดวงเล็ก ทีเด็ด99 ผมมองว่าเขายังไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่ไฟต์ล่าสุดกับ หนุ่มพังงา เขาพัฒนาขึ้นเยอะมาก ชกได้หลากหลายกว่า 2 ไฟต์แรก อาวุธคมกว่าเดิมมาก แต่ผมคิดว่าผมน่าจะเอาชนะเขาได้ครับ”
“วิธีเอาชนะเขา อย่างแรกต้องมีแข้ง ดักบวกศอก แล้วก็เข่า เพราะเขาไม่สู้วงในเราแน่นอน ผมคิดว่าวงในของผมน่าจะดีกว่า จริง ๆ ผมเป็นได้ทั้งมวยฝีมือและมวยเข่า ผมเชื่อว่าผมสามารถปรับสไตล์ได้ในไฟต์นี้ น่าจะสู้เขาได้ครับ ”
หนุ่มพังงา vs ชาคริยอร์ (29 มี.ค.67)
นอกจากจะทำการบ้านมาอย่างดีแล้ว “ศิวกร” ยังได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนร่วมค่ายหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อนสนิทอย่าง “ตะวันฉาย” ที่อาสามาช่วยถ่ายทอดเทคนิคพิเศษให้ซึ่งทำให้เจ้าตัวมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าจะคว้าชัยกลับค่ายได้อีกครั้ง
“พี่ ๆ หลายคนในค่ายได้โบนัส ผมคิดว่าสักวันต้องเป็นวันของเราบ้างครับ อยากได้โบนัสมานานแล้ว ไฟต์นี้ตั้งใจสุด ๆ ครับ เพื่อนในค่ายหลายคนให้คำแนะนำเยอะมากครับ ตะวันฉาย เพื่อนผมก็คอยสอนให้เกือบทุกวัน เขาเตือนให้ระวังหมัดดี ๆ ก่อนจะเดินเข้าหาให้เตะนำ ให้ระวังศอกของคู่ชก”
ศิวกร และ น้องเอวา ลูกสาวคนแรก
นอกจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในค่ายที่เป็นกำลังใจให้ “ศิวกร” ยังมีครอบครัวเป็นที่พึ่งทางใจและเป็นเชื้อไฟในการต่อสู้บนสังเวียนในทุกไฟต์ โดยเฉพาะลูกน้อยทั้ง 2 ที่เกิดมาจากความรักและความตั้งใจ จึงทำให้มีเป้าหมายในการมุ่งมั่นจะเอาชนะไฟต์นี้อย่างเต็มเปี่ยม
“ทุกวันนี้ผมก็เป็นเสาหลักของครอบครัว ลูกคนที่ 2 เพิ่งลืมตาดูโลกได้ 5 เดือน ลูกคือแรงบันดาลใจในชีวิตผม ผมอยากมีลูก อยากดูแลเขาให้ดีที่สุดครับ ผมสู้เพื่อครอบครัว เพื่อลูก และครั้งนี้ อยากเอาโบนัสไปฝากลูกให้ได้ครับ”