“เพชรสุขุมวิท บอยบางนา” นักชกสายแข็งวัย 25 ปี จากนครศรีธรรมราช ประกาศกร้าวยังไม่ละทิ้งความฝันสู้เวทีระดับโลก แม้จะแพ้มา 3 ไฟต์ติดต่อกัน โดยเตรียมแผนเด็ดกลับมากู้ชื่อในไฟต์ที่จะเจอกับ “ดวงสมพงษ์ จิตรเมืองนนท์” มวยขวาสูงยาว วัย 26 ปี จากสงขลา ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในฐานะคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 61 วันศุกร์ที่ 3 พ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยคู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.
3 ไฟต์แรกใน ONE ลุมพินี ของ “เพชรสุขุมวิท” เปิดตัวได้อย่างสวยหรูชนะรวด แต่จู่ ๆ ก็พลิกกลับมาแพ้ 3 ไฟต์ติดต่อกัน โดยไฟต์ล่าสุดเพิ่งจะโดน 2 นับ แพ้คะแนนให้กับ “ก้องศึก แฟร์เท็กซ์” ในศึก ONE ลุมพินี 53 เมื่อ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา แม้จะแพ้มา 3 ไฟต์รวด แต่นักชกใจสู้อย่าง “เพชรสุขุมวิท” ไม่ท้อขอกลับมาแก้ตัวเพื่อเรียกศรัทธาคืน
ก้องศึก vs เพชรสุขุมวิท (23 ก.พ.67)
“ผมรู้สึกดีใจที่ยังมีรายการชกใน ONE ลุมพินี อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะแพ้มาหลายไฟต์แล้ว ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่มีรายการ ดีใจมากที่ได้กลับมาไฟต์นี้ ความพ่ายแพ้ติดต่อกัน 3 ไฟต์ที่ผ่านมาก็รู้สึกเสียใจเป็นเรื่องปกติ แต่ผมไม่ท้อ จะสู้ต่อไป ไม่มีทางถอยแน่นอนครับ”
แม้ว่าจะฟอร์มไม่ดีในช่วง 3 ไฟต์ที่ผ่านมา แต่ “เพชรสุขุมวิท” กลับได้กำลังใจอย่างล้นหลามจากแฟนมวย ที่ยังชื่นชอบในตัวเขา ทำให้ยิ่งมีไฟที่จะกลับมาสู้ในไฟต์นี้อีกครั้ง
“กระแสโซเชียลส่วนมากคนให้กำลังใจ หลายคนอยากเห็นผมกลับมาฟอร์มดีเหมือนเดิม ก็ดีใจนะครับที่ยังมีคนสนับสนุน มีส่วนน้อยเท่านั้นที่เขาโจมตีเรา ส่วนใหญ่คนให้กำลังใจเยอะมากครับ”
“สาเหตุที่ฟอร์มไม่ดีน่าจะเป็นผลจากการที่ผมหายไป 6 เดือน เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ กลับมาตอนนั้น ร่างกายยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ ทำให้สู้ได้ไม่เต็มร้อย ไม่ต่อเนื่อง แต่สำหรับไฟต์นี้ ถือว่าสมบูรณ์กว่า 2 ไฟต์ที่ผ่านมาแน่นอนครับ”
ดวงสมพงษ์ จิตรเมืองนนท์
ขณะที่คู่ต่อสู้อย่าง “ดวงสมพงษ์” ฟอร์มที่ผ่านมายังถือว่าลุ่ม ๆ ดอน ๆ เนื่องจากตลอด 4 ไฟต์ใน ONE ลุมพินี มีสถิติผลงานอยู่ที่ชนะ 2 ไฟต์ แพ้ 2 ไฟต์ โดยล่าสุดเพิ่งแพ้คะแนน “เพชรทองหล่อ ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน” ในศึก ONE ลุมพินี 36 เมื่อ 6 ต.ค.66 อย่างไรก็ดี “เพชรสุขุมวิท” ยังเห็นถึงความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้รายนี้และเตรียมแผนมาอย่างดี ไม่มีประมาท
“ดวงสมพงษ์ มีจุดเด่นที่ความแข็งแรง และยังได้เปรียบที่ตัวสูงกว่าผม ผมเคยเจอกับมวยที่สูงกว่า แต่ไม่เคยเจอมวยสูงขนาดนี้มาก่อน ผมก็เตรียมแผนแก้เกมด้วยการเตะขา หมัดค่อยตามมาทีหลัง ผมคิดว่าเขาเป็นมวยเข่า เขาน่าจะเดินเข้าทำ ผมก็คิดว่าเดินหน้าลุยเหมือนกัน ผมว่าสนุกแน่นอน ส่วนจุดอ่อนของเขาผมยังหาไม่เจอ อาจจะต้องไปดูบนเวทีครับ”
หลังจากพ่ายแพ้มา 3 ไฟต์รวด ทางเลือกเดียวที่ “เพชรสุขุมวิท” มีตอนนี้คือการต้องคว้าชัยชนะให้ได้สถานเดียว เพื่อโอกาสได้เดินต่อไปให้ถึงฝั่งฝันในการก้าวสู่เวทีระดับโลกในอนาคต
“เป้าหมายไฟต์นี้ผมขอแค่ชนะให้ได้ก่อน ขอเอาฟอร์มเดิมที่ชนะแบบสวยงาม ชนะแบบแข็งแกร่ง กลับมาให้ได้ ผมคิดว่าผมยังมีสิทธิที่จะได้สัญญา ONE อยู่นะครับ ร่างกายผมยังดี ไม่ได้เจ็บ พร้อมสู้เหมือนเดิม ยังมีโอกาสทำร่างกายและทำฟอร์มใหม่ เพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน วัน แชมเปียนชิพ ให้ได้”