“ทองพูน พีเค.แสนชัย” นักชกมาดกวน วัย 26 ปี จากมหาสารคาม สะดุดเสียท่าพบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกใน ONE แบบน่าเสียดาย หลังพลาดพ่ายคะแนนเอกฉันท์ให้กับความดุดันของ “ซากาเรีย เอล จามารี” มวยหมัดรุ่นใหญ่ วัย 34 ปี จากโมร็อกโก ในศึก ONE Fight Night 22: สมิลลา vs นาตาเลีย เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
ภาพรวมในไฟต์นี้นักชกขวัญใจชาวไทยเจ้าของฉายา “โล้นทองคำ” ออกมาสู้ด้วยความรัดกุม เน้นบวกหมัดดักความเร็วของ “ซากาเรีย” ได้อย่างดุเดือด แต่ในยกตัดสิน “ทองพูน” กลับมาเสียท่าตั้งรับไม่ดีจนถูกหมัดของนักชกทีมเยือนซัดจนเสียอาการ ส่งผลให้ครบ 3 ยก “ทองพูน” ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คะแนนเอกฉันท์ พลาดคว้าชัยชนะบนเวทีระดับโลกสองไฟต์ติดอย่างน่าปวดใจ
อย่างไรก็ตาม ผลงานในไฟต์นี้ของ “ทองพูน” ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนกีฬาการต่อสู้อยู่ไม่น้อย โดยส่วนใหญ่มองว่าเขาชกได้ดีกว่าทุกไฟต์ที่ผ่านมา มีการออกอาวุธที่หลากหลายมากขึ้น แต่ติดปัญหาที่การป้องกันตัวหลวมมากไปเท่านั้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่เขาต้องนำไปปรับปรุง เพื่อกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
ทองพูน vs ซากาเรีย (4 พ.ค.67)
ตลอดการบู๊เดือดทั้ง 3 ยก “ทองพูน” มองว่ารูปเกมออกมาสูสี และอาจเป็นตนที่มีโอกาสได้รับการชูมือ แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับผู้ชี้ขาดบนเวที ซึ่งเจ้าตัวยอมรับผลการแข่งขันและพร้อมเดินหน้าสู้ใหม่
“ตอนครบ 3 ยก ผมคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นฝ่ายชนะในไฟต์นี้ เพราะคิดว่าสองยกแรกตัวเองทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน แต่เมื่อเป็นฝ่ายแพ้ ผมยอมรับว่ารู้สึกเสียดายมาก ผมคิดว่าผมออกอาวุธได้หลากหลายและเข้าเป้าจะแจ้งมากกว่า แต่ผมยอมรับในคำตัดสิน แพ้ก็คือแพ้ ถือเป็นเรื่องของเกมกีฬา ถ้ามีโอกาสคราวหน้าผมก็อยากรีแมตช์กับ ซากาเรีย อีกครั้งครับ”
ทองพูน vs ซากาเรีย (4 พ.ค.67)
ภายใต้ความปราชัยในไฟต์นี้ “ทองพูน” ย้อนมองข้อผิดพลาดของตัวเองหลายอย่าง ซึ่งส่งผลให้ตนไม่สามารถเค้นฟอร์มดีที่สุดออกมาได้ โดยตนตั้งใจจะงัดสไตล์การชกบู๊ระห่ำที่ถนัดกลับมาในครั้งหน้า
“สิ่งสำคัญที่ผมเรียนรู้ในครั้งนี้คือ ผมต้องบี้เข้าใส่คู่ต่อสู้ให้ต่อเนื่อง พร้อมเรียกความเด็ดขาดเหมือนเดิมกลับมาให้ได้ ไฟต์นี้ผมยังมีอาการเกร็งอยู่ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้แฟนมวยได้ชมการแข่งขันนาน ๆ ทำให้การชกไม่ไหลลื่น
และถ้าอยากชนะ ต้องทำให้จะแจ้ง ชัดเจน ต้องทำให้เกมเด็ดขาดไปเลย ไม่ต้องคอยลุ้นกับผลการแข่งขัน”
แพ้ก็คือแพ้ครับ กลับมาแก้ไขพัฒนากันต่อ
ขอบพระคุณลูกพี่เสียแขก และทีมงานPK ที่ทุ่มเทเวลา
ปรับแผนแก้เกมส์กัน เราทำดีที่สุดแล้วครับ
ขอบพระคุณทุกกำลังใจจากชาวไทยทุกคนนะครับ
ผมขอพักผ่อนเงียบๆสัก 3-4 วันก่อนนะครับ
ทำงานหนักมากพอแล้ว
แล้วจะกลับมาสู้ใหม่ครับ
ความพ่ายแพ้ไฟต์แรกใน ONE ไม่ได้ทำให้เป้าหมายของ “ทองพูน” เปลี่ยนไป เขายังมองไปถึงตำแหน่งแชมป์โลกเหมือนที่นักกีฬาทุกคนใฝ่ฝัน แต่น้ำหนัก 122 ป.ที่ “ทองพูน” ชกอยู่นั้น จัดอยู่ในรุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ที่มี “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” ครองเข็มขัดอยู่ โอกาสที่ทั้งคู่ซึ่งอยู่ค่ายเดียวกัน จะชกกันเองจึงต้องพับเสื่อไป
“เป้าหมายใน ONE ของผมยังเหมือนเดิม คืออยากก้าวไปเป็นแชมป์โลกให้ได้ แต่ตอนนี้ในรุ่น 125 ป. มี พี่พระจันทร์ฉาย เป็นแชมป์อยู่ ผมพร้อมชกกับทุกคน แต่ไม่ชกกับ พี่พระจันทร์ฉาย ครับ เพราะเรารักกัน เป็นพี่น้องกัน ที่สำคัญมากคือเขาเป็นอาจารย์ของผมครับ”
“ต่อจากนี้ ผมพร้อมชกสะสมประสบการณ์ให้มากขึ้น พร้อมพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็นครับ”
“ทองพูน” พร้อมกลับมาแบบแกร่งกว่าเดิม