ย้อนจุดกำเนิดของการโคจรมาพบกันระหว่าง “The Bosnian Menace” เดนิส พูริช นักชกจอมซ่าจากบอสเนีย-แคนาดา ที่เรียกร้องอยากปะทะ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) มาหลายครั้งหลายครา ก่อนจะถูกประกบให้เจอกันจริง ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ในศึก ONE 167 : แสตมป์ vs เดนิส ที่จะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.นี้
ดูเหมือนว่าไฟต์นี้เป็นเหมือนฝันกลายเป็นจริงของ “เดนิส” ที่เคยประกาศเจตจำนงชัดว่าเหตุผลเดียวที่เขาดั้นด้นมาฝึกมวยไทยที่เมืองไทย และพยายามหาโอกาสเข้ามาชก ONE นั่นคือการได้ประจันหน้ากับจอมบู๊ขวัญใจชาวไทย “รถถัง จิตรเมืองนนท์”
เดนิส พูริช
“เดนิส พูริช” จอมเก๋าวัย 39 ปี เปิดตัวครั้งแรกใน ONE เมื่อปี 2565 แม้จะลิ้มรสกับความพ่ายแพ้ แต่ด้วยลีลาการชกบู๊ดุดันถูกใจคนดู ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักชกจอมเอนเตอร์เทนคนหนึ่งของ ONE อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นตัวอันตรายของกีฬามวยไทย รุ่นฟลายเวต จากหมัดอาวุธไม้ตายที่คู่แข่งจะประมาทไม่ได้อีกด้วย
ชื่อของเขาเป็นที่คุ้นหูของแฟนมวยชาวไทยมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาดวลเดือดกับนักมวยไทยแถวหน้า “ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” ในศึก ONE ลุมพินี 17 เมื่อเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งแม้จะแพ้ทีเคโอไป แต่ผลงานบู๊สะบั้นหั่นแหลกของเขายังคงติดตาตรึงใจของใครหลายคน
เดนิส vs ยอดเหล็กเพชร (19 พ.ค.66)
ด้วยชื่อเสียงเรียงนามดังกล่าว “เดนิส” จึงจัดว่าเป็นคู่แข่งสุดอันตรายอีกคนที่ “รถถัง” ต้องวัดฝีมือในไฟต์ที่ถึงนี้ โดยก่อนที่ทั้งสองจะประจันหน้ากัน เราจะพาย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของการเรียกหา “รถถัง” ครั้งแล้วครั้งเล่าของ “เดนิส” เพื่อให้รู้ว่าเหตุใดเขาถึงมุ่งมั่นอยากจะประมือกับซูเปอร์สตาร์ชาวไทยมากถึงขนาดนี้ โดย “เดนิส” ย้อนถึงเหตุการณ์แรกที่เขาได้รู้จักชื่อ “รถถัง” ไว้ว่า
“ย้อนกลับไปปลายปี 2562 ช่วงโควิด-19 ระบาด ประเทศถูกปิด ช่วงนั้น ONE ผลักดันมวยไทยจนมีชื่อเสียงขึ้นมาก และผมเห็นนักมวยหนุ่มชาวเอเชียตัวเล็กชื่อ ‘รถถัง’ ไล่อัดคู่ชกหลายต่อหลายคน ผมบอกกับตัวเองว่า ผมต้องสู้กับหมอนี่ให้ได้ นั่นคือสาเหตุที่ผมมาเมืองไทยทันทีที่เปิดพรมแดน และพยายามขวนขวายจนได้เซ็นสัญญากับ ONE ตอนนี้ผมจะได้ชกกับเขาเสียที ผมสมควรได้รับโอกาสนี้”
ย้อนกลับไปในศึก ONE 162: จาง vs โจนาธาน เมื่อเดือน 21 ต.ค.65 วันนั้น “เดนิส” เจอกับ “ทาเกียร์ คาลิลอฟ” นักสู้จากรัสเซียที่เคยปะทะเดือดกับ “รถถัง” มาแล้ว และสามารถเอาชนะคะแนนไปได้ โดยหลังจบเกมนั้น “เดนิส” ได้ประกาศเรียกหาราชันมวยไทยเป็นครั้งแรกกลางสังเวียน ONE
“รถถัง ผมมาที่นี่เพื่อสู้กับคุณ คุณคือเหตุผลเดียวที่ผมเซ็นสัญญาที่นี่ องค์กรที่โคจรเจ๋งที่สุดในโลก มาสู้กันน้อง พี่มาเพื่อนายเลยนะ”
โดยผลงานในช่วง 2 ไฟต์ล่าสุดของ “เดนิส” ถือร้อนแรงฉุดไม่อยู่จากการเอาชนะน็อก “เหงียน ตรัน ดุย งัด” นักชกซุปตาร์จากเวียดนาม ในศึก ONE Fight Night 17: โรมัน vs อเล็กซ์ เมื่อ 9 ธ.ค.66 ตามด้วยการเอาชนะคะแนน “จาค็อบ สมิธ” อีกหนึ่งคู่ปรับเก่าของ “รถถัง” ในศึก ONE Fight Night 21: รีเกียน vs อเล็กซิส เมื่อ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากไฟต์ล่าสุด “เดนิส” ได้ประกาศท้าทาย “รถถัง” ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเขาเป็นครั้งที่ 2
“รายต่อไป ผมต้องการเจอ รถถัง ผมรู้ว่า ซุปเปอร์เล็ก จะชกกับ โจนาธาน ผมจึงเปิดประตูไว้สำหรับ รถถัง คู่ของเราจะเป็นไฟต์แห่งปี ผมไม่มีอะไรเป็นการส่วนตัว ผมเป็นแฟนตัวยงของเขา แต่ผมมาที่นี่เพื่อเจอคนที่เก่งที่สุด และเขาคือคนที่เก่งที่สุด เพราะงั้นมาเจอกันหน่อย”
นอกจากนี้ “เดนิส” ที่เคยผ่านประสบการณ์คิกบ็อกซิ่งมาโชกโชน ก่อนจะหันมาเอาดีในกติกามวยไทย ยังแสดงความมั่นใจสุดขีดว่าตนได้เปรียบ “รถถัง” ในกติกานี้อยู่หลายขุม โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อนอกไว้ว่า
“รถถัง คือนักมวยไทย ส่วนผมคือนักชกคิกบ็อกซิ่ง คิกบ็อกซิ่งคือโลกของผม ผมคิดว่าเขาไม่มีโอกาสชนะผมหรอก ผมจะทำให้เขาขายหน้าแน่นอน”
“ผมอยากเจอ “รถถัง” ในเวอร์ชันดีที่สุดบนเวที ผมไม่อยากเจอ รถถัง ที่มาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ บอกเลยว่า ผมไม่ได้มาเล่น ๆ งานนี้เดือดแน่”
ในขณะที่ฟากของ “รถถัง” เองก็เฝ้าดูผลงานของ “เดนิส” โดยตลอดเช่นกัน โดยเจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่า การชกระหว่างทั้งคู่ในวันที่ 8 มิ.ย. นี้ จะเป็นไฟต์ที่ดุเดือดและ “เดนิส” จะได้เจอกับของแข็งไม่ต่างจาก “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) รวมทั้ง “โจเซฟ ลาซิรี” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ที่เคยท้ารบ”รถถัง” บนสังเวียน ซึ่งจุดจบของทั้งสองคนต่างต้องพ่ายน็อกให้แชมป์โลกชาวไทยอย่างบอบช้ำไม่ใช่น้อย
“ฝากถึงเดนิส เดี๋ยวเราเจอกันบนเวทีครับ ยินดีที่คุณคิดว่าคุณจะชนะผมได้ ก็ขอบคุณมากที่เรียกหากัน เจอกันวันที่ 8 มิ.ย. แล้วคุณจะรู้ซึ้งถึงของจริง”