“ตี๋ใหญ่ พีเค.แสนชัย” นักชกวัย 23 ปี จากยะลา ประกาศกร้าวกลับมาไฟต์นี้ในแบบโฉมใหม่ มาเพื่อล่าโบนัสก้อนที่ 3 โดยไฟต์นี้จะต้องเจอกับ “ชูโต ซาโตะ” นักชกวัย 26 ปี จากแดนปลาดิบ โดยทั้งคู่จะสู้กันภายใต้กติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 120 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 64 วันศุกร์ที่ 24 พ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยคู่แรกจะเริ่มในเวลา 19.30 น.
ปี 2566 ถือเป็นปีที่ดีของ “ตี๋ใหญ่” จากการที่มาชก ONE ลุมพินี 4 ครั้ง และมีสถิติที่สวยหรูชนะ 4 ไฟต์รวด โดย 2 จาก 4 ไฟต์ที่ชนะที่นี่เป็นการชนะแบบไม่ครบยก ซึ่งด้วยลีลาที่โดดเด่นและมีใจปิดเกม ทำให้คว้าโบนัสจากบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ได้ 2 ครั้ง โดยได้เงินไปมากถึง 1,050,000 บาท จากการได้โบนัส 350,000 บาท 1 ครั้ง และได้ดับเบิลโบนัส 700,000 บาท 1 ครั้ง
ตี๋ใหญ่ พีเค.แสนชัย
“หลังจากได้มาชก ONE ลุมพินี ชีวิตผมดีขึ้นมาก หลายอย่างดีขึ้นเรื่อย ๆ แตกต่างจากสมัยก่อนมากครับ คนรู้จักเรามากขึ้น มีเงินมีทองมากขึ้น มีเงินเก็บ เราอยากได้อะไรเราก็มีเงินซื้อ ถือว่าพลิกชีวิตจากเมื่อก่อนเลยครับ”
“เงินโบนัสที่ได้จาก ONE 2 ครั้ง ผมเอาไปซื้อทองเก็บไว้ 10 บาท แล้วก็ให้เงินทางบ้าน ถ้าได้โบนัสไฟต์นี้ ผมจะเอาเงินไปให้ครอบครัว เพราะตอนนี้ภาระทางบ้านเยอะมาก เมื่อก่อนเราไม่เคยรู้เลยว่ามีภาระมากแค่ไหน”
มาจิด vs ตี๋ใหญ่ (19 ม.ค.67)
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ 2567 “ตี๋ใหญ่” กลับฟอร์มสะดุดแพ้น็อก “มาจิด คาริมี” นักชกอิหร่านในศึก ONE ลุมพินี 48 เมื่อ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา โดย “ตี๋ใหญ่” ย้อนถึงบทเรียนที่ตนได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ครั้งนั้นว่า
“ไฟต์ที่แล้วที่ผมแพ้น็อก มาจิด เป็นเพราะผมวู่วามเกินไป จริง ๆ ผมได้นับก่อนด้วย ผมกะว่าจะน็อกเขาให้ได้ สุดท้ายผมโดนหมัดสวนกลับมา มึนทั้งยกเลย ผมผิดพลาดตรงที่ไม่รอบคอบและประมาทเกินไปครับ”
“คราวนี้ ผมกลับมาในเวอร์ชันใหม่ จะชกให้ละเอียดขึ้น ไม่วู่วาม ไม่ใจร้อน รอบคอบขึ้นกว่าเดิม การแพ้ครั้งก่อนไม่ได้ทำให้ผมท้อหรือหยุดความฝันของผม แต่ทำให้ผมเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองว่าต้องแก้ไขตรงไหนครับ”
ชูโต vs รักษ์ (22 มี.ค.67)
ในขณะที่ฟากของ “ชูโต” มาประเดิมศึก ONE ลุมพินี ครั้งแรกไม่สวยเช่นเดียวกัน จากการที่แพ้น็อก “รักษ์ เอราวัณ” ในศึก ONE ลุมพินี 56 เมื่อ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง “ตี๋ใหญ่” เผยว่าได้ดูไฟต์ระหว่าง “รักษ์” ปะทะกับ “ชูโต” แบบติดขอบสนามในวันนั้นและมองเห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ของเขาในไฟต์นี้เป็นอย่างดีแล้ว
“ผมได้ดูวันที่ ชูโต ซาโตะ สู้กับ รักษ์ เอราวัณ เขาเป็นมวยรวดเร็วในช่วงแรก แต่ถ้าท้ายเกมเขาจะหมดแรง ส่วนอาวุธอื่น ๆ ผมมองว่าไม่น่ากลัวเท่าไหร่ จุดอ่อนที่เห็นได้ชัดคือเขาจะไม่ค่อยบังแข้ง เวลาตั้งการ์ดมวย ขาเขาจะกว้าง และเวลาเตะเขาจะไม่ยกบังเลย อีกอย่างเขาโดนท้องไม่ได้ด้วย”
“ไฟต์นี้ผมจะสู้ให้รัดกุม ไม่รีบมาก ผมตั้งใจกลับมากู้ศรัทธา ไฟต์ที่แล้วแพ้มา ถ้าแพ้อีก อาจไปต่อได้ยาก ต้องชนะให้ได้ครับ”