“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” มวยกำปั้นหนักวัย 19 ปี จากมาเลเซีย กลายเป็นนักกีฬา ONE ลุมพินี คนที่ 7 ที่ระเบิดฟอร์มแรงจนพิชิตใจบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” คว้าสัญญานักกีฬา ONE สำเร็จ
สำหรับ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” นักมวยจอมซ่าวัย 19 ปี ลูกครึ่งไทย-มาเลเซีย กลายเป็นนักกีฬาที่ถูกจับตามอง หลังเอาชนะน็อก “เพย์มาน โซลฟาการี” ยอดฝีมือวัย 26 ปี จากอิหร่าน เพียงยกแรก ในศึก ONE ลุมพินี 40 เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับทำสถิติเก็บชัยชนะ 4 ไฟต์รวด จนสามารถพิชิตใจบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” คว้าสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6 ล้านบาท) มาครอง
“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2547 ในครอบครัวที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้ พ่อของเขาเป็นนักมวยไทย แต่ภายหลังได้เปลี่ยนสัญชาติ และชกมวยในฐานะตัวแทนประเทศมาเลเซีย โดยใช้ชื่อมาเลย์ว่า “ราคิบ อาห์เม็ด” แถมยังได้รับการยกย่องให้เป็นนักมวยระดับตำนานของมาเลเซียอีกด้วย ส่วนพี่ชาย “ฮาคิม” มีดีกรีเป็นเจ้าของเหรียญทองคิกบ็อกซิ่ง ในกีฬาซีเกมส์ที่ กัมพูชา เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา
“อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” เริ่มหัดชกมวยเมื่อตอนอายุ 5 ขวบ ด้วยแรงสนับสนุนของผู้เป็นพ่อ อย่างไรก็ตามเมื่ออายุย่างเข้าวัย 14 ปี “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” เริ่มที่จะจริงจังกับการชกมวย จึงเข้ามาฝังตัวบ่มเพาะฝีมืออยู่ที่ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ซึ่งเขาเองเผยว่าการที่เข้าได้มาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ มันทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างในการเป็นนักสู้มืออาชีพ โดย “อาลีฟ” เผยว่า
“ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ให้การดูแลและฟิตซ้อมนักมวยทุกคนดีมากครับ ที่นี่มอบอะไรให้กับผมหลายอย่าง ทั้งในเรื่องอาชีพมวยและการใช้ชีวิต มาตอนแรกผมภาษาไทยไม่ได้เลย จนมาเรียนรู้พูดภาษาไทยได้จากที่นี่”
ด้วยวัยเพียง 17 ปี “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” สามารถคว้าแชมป์เหรียญทองมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก รุ่น 54 กก. ปี 2564 และ 2565 ตามมาด้วยการคว้าเหรียญทองมวยไทยสมัครเล่น รุ่น 54 กก.จากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปี 2564 รวมถึงรับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของมาเลเซียในปี 2565
กระทั่งได้โอกาสขึ้นสังเวียนระดับโลกในศึก ONE ลุมพินี 13 ซึ่งเขาก็เปิดตัวได้อย่างสุดปังด้วยการโชว์ศอกกลับเอาชนะทีเคโอ “ฤทธิเดช เกียรติทรงฤทธิ์” ไปในยกที่ 2 ก่อนจะเดินหน้าเก็บชัยชนะ 4 ไฟต์ติดต่อกัน
โดยล่าสุดก็โชว์พลังกำปั้นน็อก “เพย์มาน” เพียงแค่ยกแรกเท่านั้น ในศึก ONE ลุมพินี 40 ที่ผ่านมา และในไฟต์นี้เองที่ทำให้ “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” กลายเป็นนักกีฬาคนที่ 7 ของรายการ ONE ลุมพินี ที่ได้รับสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.7 ล้านบาท) มาครอง นอกจากนี้ตลอด 4 ไฟต์ที่ผ่านมาหนุ่มน้อยสองสายเลือดรายนี้กวาดโบนัสทุกไฟต์รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1.4 ล้านบาท เลยทีเดียว โดย “อาลีฟ ส.เดชะพันธ์” เผยถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า
“ผมรู้สึกมีความสุขและภูมิใจในตัวเองมากสำหรับความสำเร็จที่ผมได้รับจากความทุ่มเทและได้ในสิ่งที่ผมต้องการซึ่งก็คือการคว้าสัญญานักกีฬา ONE ส่วนเป้าหมายหลังจากนี้ก็อยากได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกครับ”