“โนแอล กรองด์ชอง” นักสู้สาวลูกครึ่งไทย – ฝรั่งเศส วัย 27 ปี กลับมากู้ศรัทธาให้แฟนกีฬาชาวไทยได้ชื่นมื่นอีกครั้ง หลังสยบความแกร่ง เอาชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ “วิกตอเรีย ซูซา” นักสู้สาววัย 26 ปี จากบราซิล ในศึก ONE Fight Night 20 ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งไฟต์สำคัญที่ “โนแอล” ต้องการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเรียกศรัทธาจากแฟนกีฬาต่อสู้ชาวไทยกลับคืนมาให้ได้ หลังจากเมื่อปีที่แล้วเธอต้องพบกับความปราชัยครั้งแรกบนสังเวียน ONE ด้วยการพ่ายซับมิชชันให้กับ “โซ ยูล คิม” สาวจอมล็อกจากแดนกิมจิ ในศึก ONE ลุมพินี 28 ไปแบบเจ็บแสบ
แม้ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของ “โนแอล” ไม่น้อย แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการเป็นผู้ชนะ ประกอบกับเป้าหมายอันแรงกล้าที่เธอหวังจะเดินไปให้ถึง ทำให้เธอค้นพบพลังงานบวก จนสามารถผ่านช่วงเวลาอันสุดแสนเจ็บปวดนั้นไปได้ เพื่อก้าวเดินต่อไปบนถนนสายนักสู้
“ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้นส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจหนูมากค่ะ แต่หนูผ่านมันมาได้ด้วยการยอมรับภาวะทางอารมณ์ของตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเชิงบวกและมองโลกในแง่ดี ที่ผ่านมา หนูไปปฏิบัติธรรมกับแม่ซึ่งช่วยได้มาก เพราะมันทำให้หนูมีสติอยู่ตลอดเวลาค่ะ”
“ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง เราควรยินดีกับทุกช่วงเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ย่ำแย่ จงยินดีกับเรื่องร้าย ๆ และในไม่ช้าคุณจะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทน ขอแค่อย่ายอมแพ้และฝึกซ้อมต่อไปเพื่อโฟกัสเป้าหมายที่ใหญ่กว่า สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถทำได้ทุกอย่างค่ะ”
ขณะที่เกมการแข่งขันในไฟต์กู้ศรัทธา “โนแอล” สามารถเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในศาสตร์เกมยืนที่เธอเดินหน้าออกหมัดได้อย่างแม่นยำ จนเกือบปิดเกม “วิกตอเรีย” ได้ตั้งแต่ยกแรก และด้วยประสบการณ์บวกกับความไม่ประมาท เธอจึงปรับสไตล์การต่อสู้อย่างชาญฉลาดจนนำมาซึ่งชัยชนะในครั้งนี้
“ไฟต์นี้หนูชก วิกตอเรีย ร่วงลงไปในยกแรก และพยายามจะปิดเกมให้ได้ ในขณะเดียวกันหนูต้องเก็บแรงเอาไว้สู้ในยกต่อ ๆ ไป เพื่อให้แน่ใจว่าครั้งนี้หนูจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ แน่นอนว่าหนูอยากจบเกมด้วยการน็อก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องกลับมาชนะอีกครั้งให้ได้เพื่อมอบให้กับคนไทย และได้โบกธงชาติไทยที่เวทีลุมพินี แค่นี้หนูก็รู้สึกดีใจแล้วค่ะ”
ชัยชนะในครั้งนี้ นอกจากการฝึกฝนที่หนักหน่วงแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือกำลังแรงใจจากแฟนกีฬาชาวไทยที่คอยส่งเสียงเชียร์เธอดังกระหึ่มไปทั่วสนามอย่างไม่ขาดสาย เธอจึงขอมอบชัยชนะในครั้งนี้ให้กับคนไทยทั่วทั้งประเทศ
“ที่สนามในวันนั้น หนูได้ยินคนไทยตะโกนส่งเสียงเชียร์ลงมาอย่างไม่ขาดสายซึ่งเป็นอะไรที่สุดยอดมากค่ะ หนูอยากขอบคุณคนไทยที่เข้ามาเชียร์ และขอมอบชัยชนะครั้งนี้ให้กับพวกเขาค่ะ”
เป้าหมายต่อไปของ “โนแอล” เธอยังคงมุ่งหวังที่จะสานต่อชัยชนะเพื่อให้เข้าใกล้โอกาสท้าชิงบัลลังก์ MMA รุ่นอะตอมเวตที่ตอนนี้ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ครอบครองอยู่ ขณะเดียวกัน เธอก็ไม่หวั่นหากได้รับข้อเสนอให้ขึ้นสู้ในกติกาอื่น ๆ ด้วย
“หนูนับถือ แสตมป์ นะคะ แต่หนูอยากได้เข็มขัดแชมป์เส้นนั้น หลังจากนี้มาดูกันว่าใครจะเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไป หนูจะได้เข้าใกล้การชิงเข็มขัดมากขึ้น และหนูก็ไม่มีปัญหาถ้าจะให้ลงแข่งในกติกาปล้ำจับล็อก หรือ มวยสากล บางทีหนูอาจจะได้ครองเข็มขัดสามเส้นในอนาคตก็ได้ค่ะ”
