“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” และ “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” สองนักสู้ตัวเก๋าเตรียมโชว์ผลงานในศึกนัดยิ่งใหญ่ ONE ลุมพินี 58 ล่าสุดทั้งสองได้ซ้อมโชว์สภาพร่างกายต่อหน้าพี่น้องสื่อมวลชนที่ค่ายมวยซุปเปอร์บอน เทรนนิง แคมป์ และให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนขึ้นสังเวียนแสดงฝีมือในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
ศึกใหญ่ต้นเดือน เม.ย. 67 2 คู่ซี้ “ซุปเปอร์บอน-น้องโอ๋” ต่างมีโปรแกรมหนัก ๆ รออยู่ โดยที่ “ซุปเปอร์บอน” จะขึ้นชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) เฉพาะกาล ปะทะกับคู่ปรับเก่า “มารัต กริกอเรียน” ซึ่งเป็นคู่เอกของรายการนี้ ในขณะที่ฟากของ “น้องโอ๋” อดีตแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) วัย 37 ปี จากสกลนคร ต้องโคจรมาเจอกับรุ่นน้องฟอร์มสด “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ซ้ายอันตราย วัย 25 ปี จากสุรินทร์ ที่เก็บแต้มชัยมา 3 ไฟต์ติดต่อกัน ซึ่งทั้งคู่จะซัดกันในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต
ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน
เริ่มต้นที่ฝั่งของ “ซุปเปอร์บอน” จอมเตะก้านคอขวัญใจมหาชน วัย 33 ปี จากพัทลุง ได้โอกาสกลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง พบกับคู่ปรับเก่าคนเดิมคนดี “มารัต” สายอึด วัย 32 ปี จากอาร์เมเนีย โดยไฟต์นี้มีเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาลของกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นเดิมพัน ซึ่งเคยเจอกันใน วัน แชมเปียนชิพ มาแล้ว 1 หน ในศึก ONE X เมื่อวันที่ 26 เม.ย.65 และจบลงด้วยชัยชนะของ “ซุปเปอร์บอน” และสามารถป้องกันแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ในเวลานั้นไว้ได้ ซึ่งก่อนเกมการชกไฟต์นี้ได้เปิดใจแบบหมดเปลือกว่า
“ตอนนี้ผมพร้อมมากให้ขึ้นชกพรุ่งนี้ยังได้เลย สำหรับผมการเตรียมตัวซ้อมในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ถือว่าง่ายกว่าการเตรียมตัวแข่งขันมวยไทยอยู่เล็กน้อย เพราะว่าอาวุธของหลัก ๆ ของ มารัต คือการปล่อยหมัดชุดและเตะขา ทำให้การป้องกันตัวของผมง่ายขึ้น ไม่ต้องไปคอยระวังอาวุธ ศอก เข่า หรือ ลูกถีบ เหมือนตอนชกมวยไทย ส่วนอาวุธของผมก็ใช้ในรูปแบบที่คุ้นชินอยู่แล้ว ทำให้การเตรียมพร้อมเต็มที่มากครับ”
“เป้าหมายหลักของผมในตอนนี้คือการได้แก้มือกับ ชิงกิซ อัลลาซอฟ และกลับมาเป็นแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งให้ได้ แต่ตอนนี้ผมต้องโฟกัสไฟต์ตรงหน้าให้เต็มที่ก่อน เพราะถ้าผมเอาชนะไฟต์นี้ได้ ผมก็จะมีโอกาสกลับไปทวงบัลลังก์อันดับหนึ่งของโลกได้ แต่ถ้าผมไม่ชนะจะเป็นการตัดโอกาสของตัวเองไป ไฟต์นี้จึงถือเป็นไฟต์ที่สำคัญสำหรับผมมาก เพื่อจะกลับขึ้นไปยืนเป็นเบอร์หนึ่งของโลกอีกครั้งครับ”
น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย
ในขณะที่ฟากของ “น้องโอ๋” ที่โดนน็อกมา 2 ไฟต์ติด ไฟต์นี้เปรียบเหมือนการกลับมากู้ศรัทธาครั้งใหญ่ และแน่นอนว่าความพ่ายแพ้หยุดเขาไม่ได้ และมันยิ่งทำให้ความหวังในการเอาชนะในตัวของนักสู้วัย 37 ปี ยังคงมีอยู่เต็มร้อยไม่มีลดน้อยลง ซึ่งเจ้าตัวถึงการชกในไฟต์นี้ว่า
“สภาพร่างกายของผมตอนนี้เต็มร้อย เหลือแค่รอวันขึ้นชกอย่างเดียว หลังจากผมแพ้มาสองไฟต์ติด ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับผมมาก เกมกีฬามีแพ้มีชนะ เมื่อเราแพ้ก็ต้องกลับมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเท่านั้นครับ”
“สำหรับ กุหลาบดำ เป็นนักมวยที่เก่งมานานแล้ว มีอาวุธหนักและรุนแรงมาก ส่วนเรื่องของอายุที่ห่างกัน 12 ปี ก็อาจมีทั้งจุดที่ได้เปรียบและเสียเปรียบ ผมอายุมากกว่าอาจจะได้เปรียบในเรื่องของประสบการณ์ ถ้าผ่านไฟต์นี้ไปได้ เป้าหมายต่อจากนี้ของผมมีอย่างเดียวคืออยากทวงบัลลังก์คืนมาให้ได้ครับ”
นอกจากแฟนมวยจะได้ดู “ซุปเปอร์บอน” และ “น้องโอ๋” แล้ว ยังจะได้ร่วมลุ้นเชียร์ “พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115 – 125 ป.) ที่ข้ามสายบู๊กติกาคิกบ็อกซิ่งอีกครั้งเพื่อท้าชิงบัลลังก์จาก “โจนาธาน ดิ เบลลา” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกันจากอิตาลี ในฐานะคู่รองของรายการ ร่วมด้วยทัพนักกีฬาระดับยอดฝีมือของวงการ อาทิ เสกสรร อ.ขวัญเมือง, เมืองไทย พีเค.แสนชัย , นักรบ แฟร์เท็กซ์, จ้าวเสือใหญ่ ส.เดชะพันธ์ , ก้องธรณี ส.สมหมาย และ อีกมากมายที่รอพร้อมจะมาขึ้นสังเวียนในวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.นี้