“คมเพชร แฟร์เท็กซ์” นักชกฝีมือดีวัย 23 ปี จากเมืองย่าโมโคราช พกความมุ่งมั่นตั้งใจมาเกินร้อย พร้อมเปิดศึกภาค 2 ย้ำแค้น “ก้องชัย ไฉนดอนเมือง” มวยซ้ายบู๊ดุดัน วัย 21 ปี จากบุรีรัมย์ เพื่อสยบทุกดรามาในภาคแรก โดยครั้งนี้จะแลกเดือดกันในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 126 ป. ศึก ONE ลุมพินี 58 : ซุปเปอร์บอน vs มารัต วันศุกร์ที่ 5 เม.ย.67 นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
“คมเพชร” และ “ก้องชัย” โคจรมาพบกันครั้งแรกในฐานะคู่เอกนำรายการของศึก ONE ลุมพินี 32 เมื่อ 8 ก.ย.66 ซึ่งรูปเกมตลอดทั้ง 3 ยกในค่ำคืนนั้น ทั้งคู่ต่างพร้อมใจกันแลกอาวุธทั้งหมัด ทั้งแข้ง ชนิดแทบไม่มีการพักหายใจ ก่อนสุดท้ายผู้ตัดสินจะลงคะแนนให้ “คมเพชร” เป็นฝ่ายคว้าชัยไปด้วยคะแนนเอกฉันท์ หยุดสถิติไร้พ่าย 4 ไฟต์ของ “ก้องชัย” ไปได้แบบสุดระทึกใจ
แม้จะเก็บชัยชนะมาจากการเห็นพ้องของผู้ตัดสิน แต่ “คมเพชร” กลับต้องเจอกระแสดรามาหลังเกมอย่างหนัก เนื่องจากมีแฟนมวยจำนวนไม่น้อยมองว่า “ก้องชัย” สมควรเป็นฝ่ายได้รับการชูมือมากกว่า กลายเป็นปมในใจที่ทำให้เจ้าตัวอยากจะเปิดศึกภาคสอง เพื่อวัดฝีมือกันอีกครั้งให้ทุกคนหายคาใจ
“ส่วนตัวผมมองว่าผู้ตัดสิน ตัดสินได้ถูกต้องแล้วครับ เพราะผมทำได้ดีกว่าในช่วงยกแรกกับยกสุดท้าย แต่พอได้เห็นกระแสดรามาหลังเกมที่ว่าผมไม่ควรชนะ ผมรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ จึงอยากจะเปิดศึกภาคสองกับ ก้องชัย ให้ทุกคนได้เห็นกันไปว่าใครเหนือกว่าแน่ ไฟต์นี้ผมอยากจะเอาชนะให้ขาดไปเลย ทุกคนจะได้หายคาใจกับผลในภาคแรกเสียที”
คมเพชร ชนะคะแนนเอกฉันท์ ก้องชัย (8 ก.ย.66)
ยิ่งไปกว่านั้น “คมเพชร” ยอมรับว่ายังไม่พอใจกับผลงานของตัวเองในไฟต์ที่ชนะ “ก้องชัย” ในภาคแรกสักเท่าไหร่ การโคจรกลับมาเจอกันในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสแก้ตัวในสิ่งที่ผิดพลาดและพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรจะได้รับการชูมือแบบไม่ต้องมีคำถามตามมา
“วันนั้นยอมรับครับว่าผมชกได้ไม่เป็นธรรมชาติของตัวเอง เพราะมัวแต่กังวลเรื่องผลแพ้ชนะมากเกินไป กลายเป็นการกดดันตัวเองแบบไม่ใช่เรื่อง และทำให้สไตล์การชกออกมาดูไปไม่สุดสักทาง จะบุกหรือจะรับก็ทำได้ไม่ชัดเจน ซึ่งไฟต์นี้ผมจะใจเย็นให้มากขึ้นและคิดให้มากขึ้นครับ”
ขณะที่ผลงานไฟต์ล่าสุดของ “คมเพชร” สามารถเอาชนะทีเคโอ นักชกจอมแกร่งจากแดนน้ำหอม “ดาเรน โรลลอง” ไปได้อย่างสวยงาม ซึ่งการคว้าชัยแบบไม่ครบยก พร้อมพิชิตโบนัสได้เป็นครั้งแรก ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าตัวได้มากโข ก่อนจะขึ้นสังเวียนไฟต์สำคัญในวันศุกร์นี้
“ไฟต์ล่าสุดกับ ดาเรน ผมปรับทัศนคติใหม่หมดครับ ไม่กังวลเรื่องแพ้ชนะแล้ว คิดแค่ว่าต้องชกออกมาให้สนุกที่สุด เลยทำให้สไตล์การชกออกมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น จนสามารถเก็บชัยชนะน็อกได้เป็นครั้งแรก ซึ่งพอหลังเกมผมก็มาไล่อ่านคอมเมนต์ในโซเชียล แล้วเห็นคนชมผลงานของผมเยอะมาก ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดี และมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมากครับ”
หลังผ่านการแลกเดือดกับ “ก้องชัย” แบบถึงพริกถึงขิงมาแล้ว ทำให้ “คมเพชร” รู้แจ้งเห็นจริงถึงสิ่งที่ตนเองด้อยกว่า และเหนือกว่า ซึ่งในการชี้ขาดภาคที่สองนี้ เจ้าตัวขอตั้งมั่นที่จะคว้าชัยแบบไม่ครบยกให้ได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการคลายทุกข้อสงสัยจากชัยชนะในภาคแรกแล้ว ยังเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าให้แก่ตัวเองที่กำลังจะอายุครบ 24 ปี ในวันที่ 7 เม.ย.นี้
“จุดเด่นของก้องชัย คือการออกหมัดครับที่ทำได้เหนือกว่าผม ส่วนจุดอ่อนน้องเขา คือเกมวงในและการออกแข้งที่ยังสู้ผมไม่ได้ ซึ่งไฟต์นี้นอกจากเกมบุกที่ซ้อมมาเต็มที่เหมือนเดิมแล้ว ผมก็ติวเข้มเรื่องการป้องกันหมัดมาเป็นพิเศษด้วยครับ”
“ผมวางแผนมาเดินบู๊แหลกตามสไตล์ถนัดของผม ซึ่งถ้าไฟต์นี้ ก้องชัย เลือกเดินบู๊ ผมก็มั่นใจว่าเกมจะต้องจบแบบไม่ครบยกแน่นอน เพราะผมเตรียมอาวุธหนักมาหลากหลาย หวังปิดเกมให้ได้ ไฟต์นี้ผมตั้งใจมาก ต้องการคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับตัวเอง และเพื่อเป้าหมายใหญ่ในปีนี้ที่ผมตั้งเป้าจะคว้าสัญญา ONE มาครองให้ได้ครับ”