รามิล, ลีออน และ ชิติพัทธ์ สามนักเตะบุรีรัมย์ ถูกลงโทษแบนจากเอเอฟซี จากเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังเกม ACL นัดบุกแพ้ เจ้อเจียง
สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ประกาศลงโทษแบน 3 นักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แก่ รามิล เซย์ดาเยฟ, ลีออน เจมส์ และ ชิติพัทธ์ แทนกลาง จากเหตุวุ่นวายหลังจบเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม H นัดที่ 5 เกมที่บุกไปเยือน เจ้อเจียง เอฟซี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ปราสาทสายฟ้า บุกไปแพ้ เจ้อเจียง เอฟซี ด้วยสกอร์ 2-3 แต่ในช่วงหลังจบเกม กลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อนักเตะและสตาฟฟ์ทั้งสองทีมตะลุมบอนกันวุ่นวาย กลายเป็นข่าวฉาวไปทั่วทวีปเอเชีย
จากภาพและคลิปวิดีโอที่ปรากฏ ที่ถูกถ่ายเอาไว้โดยแฟนบอลในสนาม ชี้ให้เห็นว่า รามิล เชย์ดาเยฟ และ ลีออน เจมส์ สองแข้งปราสาทสายฟ้า ถูกรุมทำร้ายร่างกายจากนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของฝั่งเจ้าบ้าน
ล่าสุด สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ได้ออกมาประกาศลงโทษแบนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฉาวในวันนั้นแล้ว ซึ่งทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีนักเตะที่ถูกลงโทษแบน จำนวน 3 ราย ขณะที่สโมสรก็ถูกลงโทษปรับเงินด้วย
ส่วน เจ้อเจียง เอฟซี มีผู้เล่นถูกลงโทษแบน 3 คน (หมายเลข 6, 9 และ 45) รวมถึงสตาฟฟ์ที่ลงมาก่อเหตุอีก 2 คน
บทเรียนจากสนาม
บทลงโทษจากเอเอฟซี
แก้ได้ด้วย ผู้เล่นคนที่ 12
หนังสือจากผู้จัดการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ส่งมาถึง ช้างอารีนา เมื่อวานนี้
แจ้งความผิดและบทลงโทษ นักฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 คน
1. รามิล เซย์ดาเยฟ ถูกลงโทษ ห้ามแข่งขัน 8 นัด
2. ลีออน เจมส์ ถูกลงโทษ ห้ามแข่งขัน 6 นัด
3. ชิติพัทธ์ แทนกลาง ถูกลงโทษ ห้ามแข่งขัน 6 นัด
ทั้ง 3 คน กลายเป็นนักเตะต้องห้าม ในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะถูกรุมทำร้าย และพยายามป้องกันตัวเอง ในสนามแข่งขัน หลังเกมการแข่งขันกับ เจ้อเจียง เอฟซี ที่หูโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซนเตอร์
เราได้ชี้แจง และ ส่งหลักฐานภาพถ่าย และภาพวิดีโอ ให้คณะกรรมการ เพื่อแสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจากนักกีฬา และเจ้าหน้าที่สโมสรเจ้อเจียง วิ่งเข้ามารุมทำร้ายนักกีฬาบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในพื้นที่ที่เป็นฝั่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นักกีฬาของเราส่วนใหญ่ หลบเลี่ยงการปะทะ และเข้าห้ามปราม มีบางคนที่หลบหนีไม่ทัน ถูกรุมทำร้าย จึงต้องป้องกันตัวเอง และเข้าช่วยเพื่อน ให้พ้นจากรุมทำร้าย ตามภาพที่ปรากฎให้แฟนฟุตบอลได้เห็นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับผลการตัดสินของคณะกรรมการจัดการแข่งขัน และจะส่งผลให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถ ส่งนักกีฬาทั้ง 3 คน ซึ่งถูกระบุว่ามีความผิดและลงโทษเข้าแข่งขันในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่การแข่งขันวันที่ 12 ธันวาคม นี้เป็นต้นไป
ดังนั้นการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย ในบ้าน กับ เวนท์โฟเรท์ โคฟุ เราจะขาดผู้เล่นสำคัญทั้งที่ถูกแบน และ ได้รับบาดเจ็บ ไปหลายคน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบทลงโทษที่ได้รับ เป็นบทเรียน และประสบการณ์ล้ำค่า และเจ็บปวดสำหรับนักกีฬา และ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเราจะต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ทั้งในสนามหรือนอกสนาม ทั้งในประเทศ หรือ ต่างประเทศ
เมื่อเราต้องยอมรับต่อคำตัดสิน สิ่งเดียวที่เราต้องทำ ก็คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะฝึกซ้อม และลงสนามไปทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อก้าวข้ามทุกปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้
เมื่อเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เช่นนี้ สิ่งเดียวที่เราต้องทำก็คือ การรวมพลังกันทุกคน สู้กันให้สุดหัวใจ ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ที่ต้องเจอกับ เวนท์โฟเรท์ โคฟุ
ขอเชิญชวนแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าสู่สนาม มารวมหัวใจกันสู้ มาเชียร์กันให้สุดเสียง สุดใจ เพื่อให้บุรีรัมย์ของเรา ได้ประตูชัย
มาทำให้ทุกคนเห็นว่า เมื่อผู้เล่นคนที่ 12 ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผนึกกำลังกับ ผู้เล่น 11 คนในสนาม อะไรก็เกิดขึ้นได้ ที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ก็จะเป็นไปได้
เขาห้ามผู้เล่นในทีมลงสนามได้ แต่เรายังมีผู้เล่นคนที่ 12 ที่เป็นผู้เล่นหลัก และมีคุณค่ามากที่สุดอยู่ในสนาม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
มาสู้ด้วยกัน
#ชนะเพื่อไปต่อ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงสนามไปแล้ว 5 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม มี 6 คะแนน รั้งอันดับ 3 ยังมีลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 โดยเกมนัดสุดท้าย จะเปิดบ้านพบ เวนท์โฟเรท์ โคฟุ (ญี่ปุ่น) ในวันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2566 เวลา 16.30 น.