กุนซือวัย 44 ปี เปิดใจทุกแง่มุม หลังตัดสินใจรับงานคุม สิงห์เจ้าท่า ยืนยันเตรียมเปลี่ยนสไตล์การเล่นของทีม และ ไม่หวั่นโปรแกรมโหดที่รออยู่
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือป้ายแดง การท่าเรือ เอฟซี เปิดเผยเหตุผลสำคัญที่ตัดสินใจรับงานคุม สิงห์เจ้าท่า พร้อมยืนยันเตรียมเปลี่ยนสไตล์การเล่นของทีม และ ไม่หวั่นโปรแกรมหนักที่รออยู่ในช่วง 5 นัดสุดท้าย ไทยลีก ก่อนจบเลกแรก
อดีตกองกลางทีมชาติไทย ทำช็อคแฟนบอล โปลิศ เทโร เมื่อจู่ ๆ ตัดสินใจลาออก หลังทีมได้กลุ่มทุนจากกัมพูชา เข้ามาเป็นผู้บริหารใหม่ ก่อนตกเป็นข่าวกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เช่นกัน แต่สุดท้ายเลือกเข้ามาคุมทัพ สิงห์เจ้าท่า แทนที่ สุรพงษ์ คงเทพ ที่ยุติบทบาท จากผลงานแพ้รวด 3 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ
“ทำไมถึงเลือก ท่าเรือ จริง ๆ ก็ต้องบอกว่า ท่าเรือ เป็นทีมเดียวที่แสดงเจตจำนงค์ว่าอยากได้เราที่สุด ซึ่งตอนแรกมีข้อเสนอเข้ามาก่อน แต่ก็ยังไม่ได้คุยกับใครเลยแบบจริงจัง แต่พอหลังข่าวออก เหมือน ท่าเรือ แสดงความชัดเจนที่สุดว่าอยากให้เรามา และ ด้วยความเป็นท่าเรือ พูดตรง ๆ ว่า พอมันมีข้อเสนอเข้ามาแล้ว ก็ยากที่จะปฏิเสธ” โค้ชอ้น เปิดใจผ่านสื่อสโมสร การท่าเรือ เอฟซี
“ได้คุยกับเด็ก ๆ ไปแล้วครับตั้งแต่วันแรก ว่า ทีมท่าเรือ เป็นทีมที่มีคุณภาพ แต่ที่ผ่านมา เหมือนเราใช้บอลโยนเป็นส่วนใหญ่ เพราะคิดว่าการมีกองหน้าตัวใหญ่ ก็คงโหม่งได้ แต่ก็บอกน้อง ๆ ไปแล้วว่า พี่มาที่นี่ เพื่อมาเปลี่ยนนะ เพราะไม่ได้เชื่อว่าคนตัวใหญ่ พอโยนไปแล้ว จะต้องโหม่งได้ทุกลูก แต่ทีม ท่าเรือ มีคุณภาพ เราควรจะเล่นฟุตบอลสวยงามขึ้น”
“อาจจะต้องเล่นแบบทีมใหญ่จริง ๆ ที่ต้องเดินบีบ เพรสซิ่งคู่ต่อสู้ เพื่อให้มันดุดันมากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่แชร์กับน้อง ๆ ว่า ด้วยสไตล์ทำทีมของเรา อยากให้ทุกคนปรับตัวเข้าหากัน เพราะเราทำคนเดียวไม่ได้”
นอกจากนี้ โค้ชอ้น ยังพูดถึงปัญหาเรื่องสนามซ้อม ที่ทีมยังไม่เคยมีว่า“ผมไม่รู้ว่าที่นี่ มันเริ่มดำเนินการมายังไงตั้งแต่แรก แต่ก็ได้มีการแชร์กับ คุณแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) ว่า ส่วนตัวที่ผมเห็น การเล่นในบ้าน ยอมรับว่าแข็งแรงมาก แต่ทุกครั้งที่ออกไปเป็นเกมเยือน เหมือนพอไปเจอสนามที่ไซส์ใหญ่กว่า ท่าเรือ รู้สึกว่าช่วงนาทีที่ 70 นักเตะเริ่มหมดแรง ดังนั้น ก่อนเกมเยือน อยากออกไปซ้อมสนามที่ไซส์ ใกล้เคียงกับสนามจริงมากกว่านี้ ซึ่ง คุณแป้ง ก็เห็นด้วย และ ต้องรอดูว่าพอจะเปลี่ยนอะไรได้บ้างครับ”
โค้ชอ้น จะประเดิมคุมทีมบุกเยือน เชียงรายฯ วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ต่อด้วย เปิดบ้านพบกับ บีจี ปทุมฯ , เยือน ชลบุรี เอฟซี , เปิดบ้านพบกับ บุรีรัมย์ฯ และ ปิดท้ายบุกเยือน ราชบุรี ก่อนจบเลกแรกไทยลีก
“ตอนแรกที่เห็นโปรแกรม เหมือนสวนกับที่ เทโร เพราะเราเจอเกมหนักมาหมดแล้ว และ กำลังจะเจอเกมเบา แต่พอมาที่นี่ เหมือนยังไม่ได้เจอเกมที่หนักมาก และ กำลังจะต้องเจอ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า ยังไงก็ต้องเจออยู่ดี จะมาช้า มาเร็ว เพราะทีมมันมีแค่นี้ ซึ่งสนุกดีครับ ท้าทายดี และ รู้สึกว่าถ้าทีมยังอยากเกาะกลุ่มหัวตาราง เพื่อลุ้นแชมป์ ยังไงก็ต้องเอาตัวให้รอดครับ” โค้ชอ้น ปิดท้าย